หมัดเป็นตัวกาฝากที่ก่อความรำคาญ ให้กับสุนัข และผู้เป็นเจ้าของ หมัดมีอยู่ 2 อย่าง ที่พบบ่อยได้แก่หมัดแมว
แม้ว่าจะได้ชื่อว่าหมัดแมว แต่มันก็เป็นศัตรูของสุนัข และคนด้วย
แม้ตัวแก่ของหมัดจะอาศัยอยู่บนตัวสุนัข ทำให้เกิดอาการคัน ยิ่งถ้าสุนัขแพ้น้ำลายของหมัด แล้วยิ่ง
ไปกันใหญ่ หมัดที่เห็นนั้นเป็นส่วนน้อย เนื่องจากมันยังอยู่ในลักษณะของไข่ ตัวอ่อน และดักแด้ จึงเป็นการยากที่จะกำจัดได้ด้วยสารเคมี
เพราะสารเคมี หรือยาฆ่าแมลง จะทำลายได้เฉพาะตัวแก่ของหมัดเท่านั้น
แท้จริงแล้ว หมัดที่เป็นตัวแก่ จะเป็นเพียง 5% ของประชากรทั้งหมด นอกจากนั้น ยังสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว
หากมีหมัดเพียงไม่กี่ตัว มันจะออกลูกออกหลานได้นับหมื่นตัว ภายใน 3 เดือน
วิธีที่จะกำจัดหมัดให้ได้ผล จำเป็นต้องกำจัดหมัดในสุนัขทุกตัว พร้อมทั้งกำจัดหมัดในที่อยู่อาศัย
ของเขาควบคู่กันไปอย่างสม่ำเสมอ
ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ และมีประสิทธิภาพ ค่อนข้างดี ในการกำจัดหมัด
คราวนี้มาถึงเรื่องเห็บ เจ้าของสุนัขควรที่จะตรวจหาเห็บ ทุกวัน หากอยู่ในบริเวณที่มีเห็บชุกชุมอยู่ตามธรรมชาติ
เห็บจะต้องเกาะสุนัขนานถึง 3 วัน ก่อนที่มันจะเป็นพิษกับสุนัข ดังนั้นถ้าหากพบมันเสียก่อน ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น
จำไว้อย่างหนึ่ง การกำจัดเห็บนั้นอย่าได้บี้ ตัวแก่ให้ตาย เพราะจะทำให้ตัวอ่อนระบาดมากยิ่งขึ้น ควรนำไป
เผาหรือจุ่มลงในน้ำมัน ให้ตายก็ได้
พิษของเห็บ จะทำให้สุนัขมีอาการทรุดลง อย่างรวดเร็ว เริ่มแรกจะเกิดอาการซวนเซ บางครั้ง
เสียงเห่าจะเปลี่ยนไป หรือไม่ก็อาจจะอาเจียน
อาการทั้ง 3 หากดำเนินต่อไป จะทำให้สุนัขเกิดอัมพาต โดยสิ้นเชิง เพียงไม่กี่วันสุนัขก็จะหายใจ
ลำบาก
การรักษาโดยสัตวแพทย์ จะได้ผลอย่างรวดเร็ว หากแต่ต้องนำไปโรงพยาบาล แล้วทำการรักษา
อย่างใกล้ชิด ด้วยเซรุ่มที่ต่อต้านโรค ที่มีราคาแพง
การป้องกันกำจัด มักจะใช้สารฆ่าแมลงโดยการอาบ หรือกิน